Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

ฉลองวาเลนไทน์คนเดียว

คุณเริ่มรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว เมื่อนึกถึงเทศกาลวาเลนไทน์ที่กำลังใกล้เข้ามาหรือเปล่า?

เมื่อหันไปทางไหน ทุกหนทุกแห่งล้วนประดับประดาไปด้วยตุ๊กตากามเทพ ดอกกุหลาบสีแดงสด ชอคโกแลตกล่องใหญ่ การ์ดอวยพรรูปหัวใจ และยังมีแหวนทองคำขาวประดับเพชรซีกเล็กๆ ที่วางขายกันเกลื่อนศูนย์การค้า ภาพเหล่านี้กำลังทำให้คุณเวียนหัว

คนหนุ่มสาวรอบตัวคุณกำลังเตรียมซื้อของขวัญ และกระตือรือร้นสำหรับการออกเดทครั้งสำคัญ ในขณะที่คุณกำลังโสดสนิทอยู่เพียงคนเดียวในชั้นเรียนหรือในที่ทำงาน

โปรดระวังว่าความรู้สึกแบบนี้ ในช่วงเทศกาลครึกครื้นที่คนส่วนใหญ่กำลังมีความสุขกัน อาจจะค่อยๆ กัดกินคุณ และทำให้จิตใจคุณแย่ลงๆ

ข้อมูลจาก Depression Alliance องค์กรการกุศลที่ทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าในประเทศอังกฤษ (http://www.depressionalliance.org/) ระบุว่าทุกๆ ปี ในช่วงวันเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและอารมณ์ อย่างเช่นเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ วาเลนไทน์ ฯลฯ จะมีคนโทรศัพท์เข้ามายังสายฮอตไลน์ขององค์กรมากขึ้นถึงร้อยละ 40 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาอื่นของปี เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับอารมณ์ซึมเศร้าของตนเอง

นอกจากนี้ คุณเชื่อไหมว่าในสังคมตะวันตก สถิติคดีฆ่าตัวตายในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เรื่อยไปจนถึงช่วงวันเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาอื่นของปี

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากเทศกาลเฉลิมฉลองเหล่านี้ มีผลกระทบต่อจิตใจของคนบางกลุ่ม ซึ่งจะหดหู่ ห่อเหี่ยว และรู้สึกตกต่ำลงกว่าปกติ นักจิตวิทยาของ Depression Alliance บอกว่ากลไกที่เทศกาลแห่งความสุขเหล่านี้ กระทำต่อจิตใจของผู้คนส่วนใหญ่นั้น ไม่ใช่การสร้างความสุขเพียงด้านเดียว

แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันยังทำให้ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกเครียด เพราะมันเป็นช่วงเวลาพิเศษที่อยู่นอกเหนือจากวันปกติ ผู้คนจึงต้องปรับตัวอย่างฉับพลัน และดิ้นรนให้ตนเองสอดคล้องเข้ากับแนวความคิดหลักที่ครอบคลุมเทศกาลเหล่านี้อยู่

ตัวอย่างเช่นในเทศกาลคริสต์มาส มีแนวความคิดหลักเกี่ยวกับครอบครัวอบอุ่น การมารับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันในบ้าน มีต้นคริสต์มาส มีเตาผิงอุ่นๆ มีกล่องของขวัญวางอยู่เกลื่อนกลาด แนวความคิดแบบนี้เป็นอุดมคติ และไม่ได้เกิดขึ้นจริงกับทุกคน

ส่งผลให้บรรดาคนโฮมเลส เด็กกำพร้าหรือคนชราในสถานรับเลี้ยง หรือสมาชิกในครอบครัวที่มีเพียงพ่อหรือแม่เลี้ยงดูลูกคนเดียว ก็จะมีความรู้สึกเครียดขึ้นมา สำหรับบางคนเมื่อเกิดความเครียดนี้แล้ว และไม่สามารถแก้ไขได้ จนต้องจมอยู่กับมันเป็นเวลานานๆ หลายปีติดต่อกัน ก็ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า อาการแบบนี้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง จนมีคำเรียกมันว่า Christmas Depression

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมในช่วงเทศกาลเหล่านี้ เงินทองจะไหลเวียนสะพัด และผู้คนส่วนใหญ่ออกไปช็อปปิ้งและเลี้ยงฉลองกันอย่างบ้าคลั่ง เพราะนอกจากว่าเรากำลังพยายามแสดงออกว่ามีความสุขแล้ว เราต่างก็ต้องการระบายความเครียดและหดหู่ในช่วงเวลานี้ ด้วยการหนีออกจากความเป็นจริงของชีวิตไปสักชั่วคราว

ย้อนกลับมาที่เรื่องของเราดีกว่า วันวาเลนไทน์ก็เป็นเช่นเดียวกันกับวันคริสต์มาสนั่นเอง แนวความคิดหลักของวันนี้เกี่ยวข้องกับความรักแบบโรแมนติก การส่งการ์ดรูปหัวใจ ช่อดอกไม้ การไปดินเนอร์ใต้แสงเทียน จิบไวน์ มอบแหวนเพชรเลอค่า และปิดท้ายด้วยการเมคเลิฟกันหน้าเตาผิง

ดังนั้น สำหรับคนโสด คนที่อกหักผิดหวังจากความรัก คนที่เพิ่งหย่าร้าง คู่รักเพิ่งจะตายจากไป หรือในเด็กวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงการปรับตัวเข้ากับเพื่อนต่างเพศ ที่ยังไม่สามารถจะดำเนินชีวิตในวันนี้ได้ตามแนวความคิดในอุดมคตินี้ ก็จะเกิดความเครียด และบางคนเครียดแบบสะสม เรื้อรังมานาน จนมีอาการซึมเศร้า เราเรียกอาการนี้ว่า Valentine’s Depression

วิธีแก้อาการ Valentine’s Day depression นั้นง่ายกว่าการรักษาอาการ Depression หรือโรคซึมเศร้า ซึ่งต้องไปปรึกษาจิตแพทย์และทานยาอย่างสม่ำเสมอนานเป็นปี Valentine’s Day depression นั้น เพียงแค่คุณรักษาเนื้อรักษาตัว และรักษาจิตใจตนเอง รอเวลาให้ผ่านพ้นช่วงเทศกาลนี้ไป หลักสำคัญก็คืออย่าอยู่คนเดียว หรือถ้าต้องอยู่คนเดียว ก็ต้องหากิจกรรมอะไรที่มีคุณค่าทำไปเรื่อยๆ ง่ายดาย

วันวาเลนไทน์ก็เหมือนกับวันเทศกาลอื่นๆ นั่นแหละ คริสต์มาส ปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง วันแม่ ฯลฯ และวันเทศกาลเหล่านี้จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากวันอื่นๆ ของปีเลย คือในที่สุด มันจะต้องเลยผ่านไป

ค่ำคืนของเทศกาลแห่งความรักอันยาวนานและน่าหดหู่นี้ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป อีกประเดี๋ยวก็จะเช้าแล้ว เมื่อถึงเช้าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม การ์ดรูปหัวใจ ช่อดอกไม้ กล่องชอคโกแลตเหล่านั้น ก็จะหายไป คุณเคยฟังเพลง “คืนอันเป็นนิรันดร์” จากหนังเรื่อง รักแห่งสยาม หรือเปล่า? นั่นแหละ! สัจธรรมของโลกและชีวิต

และเพื่อจะได้ข้ามผ่านคืนที่ดูเหมือนว่าจะยาวนานราวกับเป็นนิรันดร์นี้ไปได้แบบราบรื่น รวบรัด รวดเร็ว เรามีข้อเสนอแนะให้คุณ 8 ประการดังต่อไปนี้

1. อย่าเสียใจเพราะคิดว่าคุณคือคนเดียวที่ผิดปกติหรือกำลังเศร้าในเวลานี้ ขอบอกว่ายังมีคนแบบคุณอีกเยอะเลย เพียงแต่คนกลุ่มนี้ไม่ได้แสดงตัว หรือไม่ได้ถูกนำเสนอผ่านทางหน้าจอทีวีเท่านั้นเอง มีคนมากถึง 1 ใน 10 ที่มองวันเทศกาลเหล่านี้ในแง่ลบ อย่างไรก็ตาม ถึงจะไม่มีคู่รักออกไปฉลองกินดื่มในค่ำคืนนี้ คุณก็อย่าหงุดหงิด ซึมเศร้า หรือมองโลกในแง่ลบเลย คุณก็คือคุณ คุณค่าของตัวคุณอยู่ที่ตัวคุณเอง ไม่ได้อยู่ที่คู่รักของคุณ จริงไหมล่ะ?

2. อย่ามองย้อนกลับไปยังอดีต ว่าคือชีวิตที่ผ่านมาคือความผิดพลาดหรือล้มเหลว แต่ควรมองว่ามันคือประสบการณ์อันมีค่า คนที่กำลังควงคู่รักไปเลี้ยงฉลองวันเทศกาลกันในตอนนี้ ส่วนใหญ่ก็เคยผิดหวัง อกหัก และมีอดีตที่น่าเศร้ามาแล้วทั้งนั้นแหละ ถึงแม้ปีนี้คุณจะอยู่คนเดียว แต่คงจะไม่ใช่ในปีหน้าหรือปีถัดๆ ไป

3. ทำสิ่งที่คุณอยากทำ และไม่มีโอกาสได้ทำในวันวาเลนไทน์ตอนสมัยที่ยังมีคนรักอยู่ เช่นสำหรับผู้ชาย คุณอาจจะเช่าดีวีดีหนังแอคชั่นระเบิดเถิดเทิง หรือหนังสยองขวัญเลือดสาดตามที่ใจต้องการ (ควรหลีกเลี่ยงหนังโรแมนติคคอเมดี้ทั้งหลาย หนังดราม่าเคร้าน้ำตา อย่าง The Notebook, Love Letter และหนังอาร์ทที่เรียกอารมณ์เหงา อย่าง Chungking Express)

4. สำหรับผู้หญิง คุณอาจจะเลือกไปทำสปา นวดหน้า ทำเล็บ ในร้านที่คุณมีคูปองลดราคาเก็บไว้มานานแสนนาน แต่ยังไม่มีโอกาสไปใช้สิทธิเสียที เมื่อคุณไปถึงร้าน คุณอาจจะแปลกใจว่าทำไมในวันนี้ ร้านเหล่านี้มีคนเข้าไปใช้บริการ คับคั่งพอๆ กับภัตตาคารและผับเลยหละ! ส่วนใหญ่ก็คิดเหมือนคุณนั่นแหละ

5. วันวาเลนไทน์ไม่ได้กินความหมายเฉพาะความรักของคนหนุ่มสาวเท่านั้น ดังนั้นอันดับแรกสุด จงหมุนโทรศัพท์ไปทักทายพ่อแม่ของคุณ เชื่อสิ! ว่าตอนนี้พวกท่านกำลังเหงา และอาจจะกำลังเอาภาพถ่ายในงานเลี้ยงวันปีใหม่ที่เพิ่งผ่านมา มานั่งเปิดดูกันและบ่นคิดถึงลูกๆ กันอยู่

6. หลังจากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาเพื่อนฝูงที่ยังโสดเหมือนคุณ หรือคนที่เพิ่งเลิกกับแฟน หรือเพิ่งหย่าร้าง แล้วชวนพวกเขาคุยสัพเพเหระ และแสดงความรักความปรารถนาดีต่อคนใกล้ชิดที่คุณเคยหลงลืมเขาตอนที่กำลังมีคนรัก

7. นัดบรรดาเพื่อนโสดของคุณมาจัดปาร์ตี้กันที่บ้าน ก็ถือเป็นไอเดียที่ไม่เลว คุณอาจจะได้พบมิตรภาพที่แน่นแฟ้น หรืออาจจะได้พบคนที่ถูกใจคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรนัดเพื่อนของคุณออกไปกินเหล้ากันข้างนอก เพราะการไปอยู่ในภัตตาคารหรือผับหรูๆ ในคืนวันวาเลนไทน์ แล้วได้ไปเห็นภาพคู่รักหวานชื่นล้อมรอบตัว อาจจะทำให้คุณกับเพื่อนดื่มเพลินจนเกินลิมิต

8. ในต่างประเทศ มีองค์กรการกุศลหลายแห่งชอบจัดงานกิจกรรมอาสาสมัครในวันวาเลนไทน์ แต่สำหรับในเมืองไทยเราคงไม่ค่อยมีงานกิจกรรมในวันนี้มากนัก เรามักจะเน้นไปที่วันปีใหม่และสงกรานต์เสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม การได้ไปร่วมทำงานอาสาสมัครช่วยเหลือคนอื่น ในวันแห่งความรักหรือในวันเทศกาลใดๆ ก็ตาม ถือเป็นการแปลความรู้สึกด้านลบภายในใจ ให้กลายเป็นพลังสร้างสรรค์ที่ดีที่สุด

คุณคงไม่รู้หรอก ว่าในความเป็นจริง วันวาเลนไทน์ไม่ได้ทำให้คู่รักหวานแหววทุกคู่ มีความสุขตามอุดมคติเรื่องความรักเสมอไป

การออกเดทและการไปดินเนอร์เพื่อฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ ถือเป็นงานอีเวนต์ใหญ่ประจำปีสำหรับคู่รัก ที่จะได้เรียนรู้ไลฟ์สไตล์ รสนิยม ความคิด ความเชื่อ และพิจารณาความเหมาะสมของกันและกัน ดังนั้น วันวาเลนไทน์มักจะเป็นวันที่คู่รักจำนวนมากได้เรียนรู้ ว่าอีกฝ่ายหนึ่งอาจจะไม่ใช่คนในฝันของตนอีกต่อไป

ผู้หญิงหลายคนรู้สึกว่าฝ่ายชายไม่โรแมนติกมากอย่างที่ตนหวัง ส่วนผู้ชายหลายคนก็รู้สึกว่าฝ่ายหญิงเรียกร้องมากเกินไป เป็นต้น

วันวาเลนไทน์แบบนี้ค่อนข้างวนเวียนซ้ำซาก และเรื่องราวความรักแบบนี้ก็ค่อนข้างน่าเบื่อ เราต่างก็เคยผ่านมันมาปีแล้วปีเล่า คนแล้วคนเล่า เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับมันมามากแล้ว

ดังนั้น สำหรับในวันวาเลนไทน์ที่ไร้คู่รักในปีนี้ จะว่าไปแล้ว ถึงแม้จะหดหู่และเหงาหงอย แต่มันก็ให้บทเรียนเรื่องความรักบทใหม่กับเราได้เป็นอย่างดี เพราะในปีที่ผ่านๆ มา คุณอาจจะมองความรักว่ามีอยู่เพียงแค่มุมเดียว คือความรักโรแมนติกของคนหนุ่มสาว แต่ในปีนี้ คุณจะได้มองความรักที่ซับซ้อนและหลากหลายขึ้น

คุณได้อยู่กับตัวเอง ได้คุยกับพ่อแม่ ได้ปาร์ตี้กับเพื่อน ได้ทำเพื่อตัวเอง และได้ไปทำงานอาสาสมัครการกุศลเพื่อคนอื่น

นั่นเท่ากับคำว่า “ความรัก” ของคุณในวันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ปีนี้ ได้แผ่ขยายให้กว้างออกไปสู่ผู้คนมากมาย ตั้งแต่พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ไปจนถึงมนุษยชาติ และความรักของคุณยังได้ดำดิ่งลึกลงไปในจิตใจ แล้วคุณจะรู้ว่าความรักที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่การฉลอง งานอีเวนต์ การช็อปปิ้ง หรือการไปดินเนอร์ อย่างปีที่ผ่านมา